Monday, January 23, 2017

ข้อควรคำนึงก่อนเช่าเว็บโฮสติ้ง

บริการโฮสติ้ง ข้อควรคำนึงก่อนเช่าเว็บโฮสติ้ง สำหรับทำเว็บไซต์ เว็บแอพพลิเคชั่น

บริการโฮสติ้ง ในประเทศไทยนั้นถือว่ามีผู้ให้บริการอย่างแพร่หลาย และมีให้เลือกมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งแต่ละแพ็คเกจที่ผู้บริการให้เช่าเว็บโฮสติ้งเหล่านี้ก็จัดรูปแบบแพ็คเกจแตกต่างกันไป และระบบก็มีความแตกต่างหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็น cPanel, Plesk, Direct admin เป็นต้น ซึ่งให้แต่ละระบบก็มีจุดเด่น จุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าต้องการใช้ระบบแบบไหนให้ยืดหยุ่นกับระบบเว็บไซต์ของตัวเองให้มากที่สุด สำหรับวันนี้เราจะมากล่าวถึงเว็บโฮสติ้ง และการเลือกเช่าเว็บโฮสติ้ง

บริการโฮสติ้ง


หลายคนที่กำลังมองหาโฮสติ้ง สำหรับเว็บไซต์ของตัวเองอยู่ แล้วยังไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหนดี เข้ามาดูในเว็บฯ ของผู้ให้บริการโฮสติ้งแล้ว เห็นแต่แพ็กเกจเยอะไปหมด คำถามต่อไปคือ เราต้องใช้แพ็กเกจไหน หรืออย่างน้อยๆ โฮสติ้งควรมีอะไรให้เราบ้าง เพื่อเราจะได้มีข้อมูลเบื้องต้นอยู่ในใจ สำหรับการตัดสินใจเลือกบริการโฮสติ้งสักแพ็กเกจ และยังเป็นการทำให้เราไม่ต้องเสียเงินมากเกินความจำเป็นในการซื้อแพ็กเกจโฮสติ้งที่เกินความต้องการของเว็บไซต์เรา
สำหรับบริการ หรือสิ่งที่ควรมีให้ในแพ็กเกจต่ำสุด หรือเบสิคสุดๆ ที่ผู้ให้บริการโฮสติ้งควรมีให้เรา แบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้ดังนี้
ส่วนของพื้นที่การใช้งาน และประมาณข้อมูลเข้าออก
ในส่วนนี้เป็นส่วนหลักในการใช้งานโฮสติ้งอยู่แล้ว โดยผู้ให้บริการควรจะมีปริมาณพื้นที่การใช้งาน (Disk Space) ระบุอยู่ในแพ็กเกจให้ชัดเจน โดยอาจรวมพื้นที่ทั้งหมด ทั้งเว็บไซต์ ฐานข้อมูล และอีเมลล์ เช่นพื้นที่การใช้งานทั้งหมด 300 MB ก็ได้ หรืออาจจะแยกแต่ละอย่างก็ได้ เช่นพื้นที่เว็บไซต์ 100 MB พื้นที่ฐานข้อมูล 100 MB และพื้นที่อีเมลล์ 100 MB ขึ้นอยู่กับการบริการจัดการพื้นที่บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ของแต่ละผู้ให้บริการ
อีกส่วนคือส่วนของปริมาณข้อมูลเข้าออก ซึ่งโดยทั่วไปจะมีการระบุค่าการใช้งานประมาณข้อมูลเข้าออก (Data Transfer) แบบเดือนต่อเดือน เช่น ปริมาณข้อมูลเข้าออก 10 GB/เดือน โดยเมื่อครบเดือน ระบบจะทำการนับค่าการใช้งานใหม่ ซึ่งปริมาณข้อมูลเข้าออก เป็นค่าที่ได้จากการที่มีการเข้า และออกของข้อมูลเว็บไซต์เรา ผ่านการ Upload และ Download ตามลำดับ แต่สำหรับผู้ให้บริการบางแห่งที่ระบุในแพ็กเกจว่า ปริมาณข้อมูลเข้าออก ไม่จำกัด นั้น อยากให้ทุกคนระมัดระวังในการเลือกใช้บริการในลักษณะนี้ เนื่องจากมักมีเงื่อนไขแอบแฝง ฉะนั้นหากต้องการใช้งานควรจะศึกษาเงื่อนไขและข้อตกลง อย่างละเอียดเพื่อไม่ให้เสียที หรือเสียค่าปรับแพงๆ ให้ผู้ให้บริการ (บางแห่ง ค่าปรับแพงกว่าค่าบริการโฮสติ้งอีก)
ส่วนของการรองรับภาษาโปรแกรม และระบบฐานข้อมูล
โดยทั่วไปบริการโฮสติ้งจะให้บริการผ่าน 2 ระบบปฏิบัตการหลัก คือ Windows และ Linux โดยส่วนใหญ่ โฮสติ้งที่ให้บริการบนระบบปฏิบัติการ Windows จะรองรับทั้งโปรแกรมภาษา PHP บนฐานข้อมูล MySQL และโปรแกรมภาษา ASP.NET บนฐานข้อมูล MS Access หรือ MS SQL โดยหากเป็นการใช้งานในระดับ MS SQL อาจไม่มีอยู่ในแพคเกจตัวเริ่มต้นของโฮสต์ เนื่องจากต้นทุนค่าซอฟแวร์
กล่าวได้ว่า แพคเกจในระดับเบสิคของโฮสต์ ทั่วๆไปควรจะรองรับ โปรแกรมภาษา PHP และฐานข้อมูล MySQL ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้พัฒนานิยมเขียนกันมากอยู่แล้ว
ส่วนของการให้บริการหลังการขาย หรือ Support
สำหรับส่วนนี้ผู้ให้บริการในประเทศไทยยังไม่มีการแบ่งแยกการให้บริการอย่างชัดเจนเท่าไหร่ โดยบริการหลังการขาย หรือการ Support มักจะเหมือนและเท่าเทียมกันหมดทุกแพ็กเกจ ต่างจากผู้ให้บริการในต่างประเทศที่มีการแบ่งแยกชัดเจน ดังนั้นจึงอยากมาบอกกับผู้ที่กำลังพิจารณา หรือต้องการใช้บริการโฮสต์กับผู้ให้บริการในต่างประเทศ ว่าสำหรับบริการหลังการขาย หรือการ Support ในต่างประเทศนั้น แพ็กเกจต่ำสุด หรือเบสิกสุด โดยส่วนมากจะให้บริการการแจ้งปัญหา หรือติดต่อผ่านช่องทางอีเมลล์ หรือระบบ Ticketing system เท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าจะฉุกเฉินแค่ไหน เร่งด่วนแค่ไหน ก็ต้องติดต่อ แจ้งปัญหาทางอีเมลล์ หรือระบบ Ticketing system เท่านั้น หากต้องการติดต่อผ่านช่องทางอื่นเช่น Chat หรือโทรศัพท์ติดต่อนั้นจะต้องใช้บริการในแพ็กเกจสูงๆ หรือต้องซื้อบริการในส่วนนี้เพิ่ม ผู้ให้บริการบางรายที่ค่าบริการโฮสต์มีราคาถูกกว่าผู้ให้บริการอื่นๆ ส่วนมากจะเก็บค่าเพิ่มสำหรับบริการหลังการขาย หรือบริการ Support ทางโทรศัพท์ที่สูงมาก ฉะนั้นก่อนใช้ให้ศึกษาแพ็กเกจให้ดีก่อน จะได้ไม่ต้องเสียอารมณ์เพราะต้องเสียเงินเพิ่มภายหลัง
สรุปง่ายๆ คือ บริการเบื้องต้น หรือเบสิก ที่บริการโฮสติ้งควรจะมีให้บริการคือ พื้นที่ไว้เก็บเว็บไซต์ ฐานข้อมูล และอีเมลล์ ปริมาณข้อมูลเข้าออก ที่ควรระบุว่าให้เราใช้งานได้เท่าไหร่ ควรรองรับภาษาโปรแกรมที่มีการใช้กันทั่วไป และควรมีบริการหลังการขาย หรือบริการ Support ให้ อย่างน้อยคือแจ้งปัญหาผ่านอีเมลล์ และ Ticketing system (สำหรับโฮสต์ในไทยควรมี Support ทางโทรศัพท์ด้วย)
อย่างไรก็ตามข้างบนนี้เพียงแต่บอกถึงบริการเบื้องต้นที่ผู้ให้บริการโฮสติ้งควรมีให้ใช้งาน แต่เราควรหาโฮสติ้งให้เหมาะสมกับเว็บไซต์ และการใช้งานของเรา ไม่ใช่หาแต่แพ็กเกจที่ถูกสุด แต่พอนำมาใช้จริง เว็บ เรากลับใช้งานไม่ได้ เพราะมีความต้องการบริการที่สูงกว่าแพ็กเกจเบื้องต้นนั้นเอง

บริการโฮสติ้ง

Wednesday, December 14, 2016

ร้านค้าออนไลน์ ทำง่าย เพิ่มรายได้

ร้านค้าออนไลน์ ทำง่าย เพิ่มรายได้ แค่ทำข้อมูลสินค้าให้ละเอียด ให้เห็นภาพ มีความน่าเชื่อถือแค่นี้ สินค้าของคุณก็จะถูกขายออกไปอย่างดาย ยิ่งมีระบบเว็บไซต์ที่รองรับการขายก็จะยิ่งง่าย ลดขั้นตอนสะดวกสบายง่าย ๆ สำหรับลูกค้าของคุณ

ร้านค้าออนไลน์ ร้านขายสินค้าออนไลน์ สร้างร้านค้าออนไลน์ให้น่าเชื่อถือ ในยุคปัจจุบันเมื่อคุณมีผลิตภัณฑ์ มีสินค้า มีบริการ สิ่งหนึ่งที่คุณห้ามลืมอย่างเด็ดขาดคือการทำการตลาด ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจหลักสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้แบรนด์ สินค้าหรือบริการของคุณให้เป็นที่รู้จักในตลาด และในขณะนี้สิ่งหนึ่งที่ผู้คนกำลังแห่แหนเข้ามาทำ การเปิดร้านโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน หรือการทำ ร้านขายสินค้าออนไลน์ บนอินเตอร์เนตนั่นเอง และการทำร้านค้าออนไลน์บนอินเตอร์เนต ถือว่าเป็นตัวที่สามารถเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ค้าแม่ค้า หรือธุรกิจต่าง ๆ ได้เป็นกอบเป็นกำ พร้อมทั้งสิ่งที่ตามมาคือการลดต้นทุน บริหารจัดการง่าย และปัจจุบันเทคโนโลยีทางด้านการทำเว็บไซต์ที่ก้าวหน้าไปอย่างมาก ระบบร้านค้า นั้นสามารถรองรับการทำงานและมีฟีเจอร์การทำงานที่ทำได้หลายรูปแบบมากขึ้น จากในอดีต นั่นจะทำให้ธุรกิจของคุณขับเคลื่อนด้วยระบบที่มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีมาก ๆ แล้วเราจะสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ร้านค้าออนไลน์หรือเว็บไซต์ขายสินค้าของเราได้อย่างไร
  1. ต้องเป็นร้านที่แปลกใหม่ ดูทันสมัย ถ้าหากว่าเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ของคุณ ลักษณะการออกแบบยังดูรุ่นเก่า ไม่มีจุดเด่น ไม่มีลูกเล่นที่แปลกตา นั่นอาจจะทำให้ลูกค้ากดปิดเว็บไซต์ของคุณตั้งแต่แรกที่เข้ามา CMC-UP.COM Mobile : 093-1983758 ; Line Id : @cmc-up ; E-mail : cmcup.com@gmail.com รับอัพเดต ปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ให้ดูทันสมัย พร้อมรองรับการทำงานบนอุปกรณ์ มือถือ และ แท็ปเล็ต
  2. ต้องเข้าใจลูกค้าและมีความเป็นมืออาชีพ เว็บไซต์ของคุณต้องมีการทำงานที่ง่าย เข้าถึงข้อมูลสินค้า บริการ ผลิตภัณฑ์ได้ง่าย มีข้อมูลหรือรูปแบบการนำเสนอที่น่าสนใจดึงดูดดลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ หรือการนำเสนอด้วยวิดีโอ มีความเข้าใจการใช้งานของลูกค้า ทำให้ลูกประทับใจและสามารถซื้อสินค้าได้ง่าย ขั้นตอนไม่เยอะ ง่าย ๆ รายได้เพิ่ม CMC-UP.com Mobile : 093-1983758 ; Line Id : @cmc-up ; E-mail : cmcup.com@gmail.com เรามีการนำเทคโนโลยีทางด้าน UX มาเป็นส่วนช่วยวิเคราะห์ในการทำเว็บไซต์เพื่อให้เกิดการใช้งานที่สะดวกสบายสำหรับลูกค้าของคุณ พร้อมทั้งออกแบบการทำงานให้สามารถครอบคลุมไปถึง Social network ต่าง ๆ ที่คุณได้เปิดใช้งานไว้เพื่อนำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
  3. เพิ่มความมั่นใจให้แก่ลูกค้า ว่าคนอื่นก็ซื้อสินค้าจากเราเหมือนกัน โดยการนำเสนอการรีวิวผลิตภัณฑ์ สินค้า หรือบริการจากลูกค้าคนอื่น ๆ ที่เข้ามาซื้อหรือมาใช้บริการ ซึ่งสิ่งข้อมูลเหล่านี้จะเพิ่มความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า

วิธีสร้างเว็บ สร้างง่าย ๆ เพิ่มรายได้สูง

วิธีสร้างเว็บ เว็บไซต์ทั่วไป เว็บไซต์นำเสนอผลงาน เว็บขายสินค้าออนไลน์ เว็บแสดงผลงาน เว็บสำหรับธุรกิจ เว็บสำรับธุรกิจโรงแรม ห้องพัก เว็บสำหรับธุรกิจจองทัวร์ เว็บสำหรับธุรกิจบริการมีระบบจองการเข้าใช้งาน

วิธีสร้างเว็บ ก่อนอื่นที่คุณจะสร้างเว็บไซต์ หรือมีเว็บไซต์สักเว็บหนึ่ง คุณต้องรู้วัตถุประสงค์การทำเว็บไซต์ของคุณ หรือจำแนกประเภทของเว็บไซต์ เพื่อที่จะสามารถใช้งานเว็บไซต์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจถึงลักษณะของเว็บไซต์และจำแนกแยกแยะได้ว่าเว็บไซต์เหล่านั้นมีความแตกต่างหรือเหมือนกันประการใดรวมถึงมีหน้าที่หลักเฉพาะตัวอย่างไรบ้าง โดยหลัก ๆ แล้วเว็บไซต์สามารถแบ่งออกได้เป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 8 ประเภทตามลักษณะของเนื้อหาและรูปแบบของเว็บไซต์ กลุ่มเว็บทั้ง 8 ประเภท ได้แก่
  • เว็บท่า (Portal site)เว็บท่านั้นอาจเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่าเว็บวาไรตี้ (variety web) ซึ่งหมายถึงเว็บที่ให้บริการต่างๆ ไว้มากมาย มักประกอบไปด้วยบริการเครื่องมือค้นหา ที่รวบรวมลิงค์ของเว็บไซต์ที่น่าสนใจไว้มากมายให้ได้ค้นหา รวมถึงบริการที่เกี่ยวกับเรื่องราวที่มีสาระและบันเทิงหลากหลายประเภท เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ดูดวง ท่องเที่ยว IT เกม สุขภาพ หรืออื่นๆ นอกจากนั้นแล้วเว็บท่ายังมีลักษณะในการเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของผู้คนในสังคมในเรื่องเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ซึ่งเรียกว่าเว็บชุมชน (community web) คือเป็นเว็บที่ให้บริการพื้นที่แก่กลุ่มคนผู้ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันได้เข้ามาแลกเปลี่ยนและแสดงความคิดเห็นกัน
  • เว็บข่าว (News site)เว็บข่าวมักเป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นโดยองค์กรข่าวหรือสถาบันสื่อสารมวลชนต่างๆ ที่มีสื่อมวลชนประเภทต่างๆ ของตนอยู่เป็นหลัก เช่น สถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร หรือแม้กระทั่งกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ แต่องค์กรเหล่านี้ได้นำเว็บไซต์มาใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อนำเสนอข่าวและสาระที่เป็นการสรุปใจความสำคัญหรือรวบรวมเนื้อหาจากข่าวในรอบเดือนหรือรอบปี ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลและติดตามข่าวสารได้ทุกที่ทุกเวลา แม้ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม
  • เว็บข้อมูล (Information site)เว็บข้อมูลนั้นเป็นเว็บที่ให้บริการเกี่ยวกับการสืบค้นข้อมูล ข่าวสาร หรือข้อเท็จจริงต่างๆ ตนเองขึ้นมา เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนหรือกลุ่มบุคคลที่สนใจ ได้เข้ามาศึกษาค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับองค์กรของตนได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสในการประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจอันดีให้เกิดแก่ประชาชนในสังคมอีกด้วย
  • เว็บธุรกิจหรือการตลาด (Business/ Marketing site)เว็บธุรกิจหรือการตลาด เป็นเว็บไซต์ที่มักสร้างขึ้นโดยองค์กรธุรกิจต่างๆ มีจุดมุ่งหมายหลักในการประชาสัมพันธ์องค์กรและเพิ่มผลกำไรทางการค้า โดยเนื้อหาส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดมักจะเป็นการนำเสนอที่มีความน่าสนใจและตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ทั้งนี้เพื่อผลกำไรทางธุรกิจนั่นเอง
  • เว็บการศึกษา (Education site)เว็บการศึกษามักเป็นเว็บที่สร้างขึ้นโดยสถาบันการศึกษาต่างๆ หรือองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีนโยบายในการเผยแพร่ความรู้ และให้โอกาสในการค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อการศึกษาแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา รวมถึงประชาชนทั่วไป เว็บการศึกษาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนรู้ทั้งแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เว็บที่เกี่ยวกับการศึกษาโดยตรงนั้น ได้แก่เว็บของสถาบันการศึกษา ห้องสมุด และเว็บที่ให้บริการการเรียนรู้แบบออนไลน์ที่เรียกว่า อี-เลิร์นนิ่ง (e-learning) นอกจากนี้แล้วยังรวมถึงเว็บที่สอนหรือให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เช่น การทำเว็บ การทำอาหาร การถ่ายภาพ การเขียนโปรแกรม ฯลฯ
  • เว็บบันเทิง (Entertainment site)เว็บบันเทิงนั้นมุ่งเสนอและให้บริการต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความบันเทิง โดยทั่วไปอาจนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการบันเทิงทั่วไป เช่น ดนตรี ภาพยนตร์ ดารา กีฬา ความรัก บทกลอน การ์ตูน เรื่องขำขัน รวมถึงการให้บริการดาวน์โหลดโลโก้และริงโทนสำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่อีกด้วย เว็บประเภทนี้อาจมีรูปแบบที่เป็นอินเตอร์แอคทีฟที่ตื่นตาตื่นใจ หรือใช้เทคโนโลยีมัลติมิเดียได้มากกว่าเว็บประเภทอื่น
  • เว็บองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร (None-profit organization site)เว็บประเภทนี้มักจะเป็นเว็บที่สร้างขึ้นโดยกลุ่มบุคคลหรือองค์กรต่างๆ ที่มีนโยบายในการสร้างสรรค์ที่ช่วยเหลือสังคมโดยที่ไม่หวังผลกำไรหรือค่าตอบแทน ซึ่งกลุ่มบุคคลหรือองค์กรเหล่านี้ได้แก่ สมาคม ชมรม มูลนิธิ และโครงการต่างๆ โดยอาจมีจุดประสงค์เฉพาะที่แตกต่างกัน เช่น เพื่อทำความดี สร้างสรรค์สังคม พิทักษ์สิ่งแวดล้อม ปกป้องสิทธิมนุษยชน รณรงค์ไม่ให้สูบบุหรี่ หรืออาจรวมตัวกันเพื่อดูแลผลประโยชน์ของสมาชิกในกลุ่ม
  • เว็บส่วนตัว (personal site)เว็บส่วนตัวอาจเป็นเว็บของคนๆ เดียว เพื่อนฝูง หรือครอบครัวก็ได้ โดยอาจจัดทำขึ้นด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน เช่น แนะนำกลุ่มเพื่อน โชว์รูปภาพ แสดงความคิดเห็น เขียนไดอารี่ประจำวัน นำเสนอผลงาน ถ่ายทอดประสบการณ์เกี่ยวกับสิ่งที่เชี่ยวชาญหรือสนใจ โดยทั้งหมดนี้อาจทำเป็นเว็บไซต์หรือเป็นเพียงเว็บเพจหน้าเดียวก็ได้

Wednesday, December 7, 2016

การสร้างเว็บไซต์ วางแผนดี มีเงินล้าน

การสร้างเว็บไซต์ วางแผนยังไง ให้เว็บไซต์ออกมาสมบูรณ์ และพร้อมทำให้ธุรกิจของคุณมีผู้เข้าชม เข้ามาดูข้อมูล เข้ามาซื้อสินค้า หรือใช้บริการของคุณ

การสร้างเว็บไซต์ CMC-UP.COM เป็นผู้ให้บริการจัดทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ โดยหลักของเราอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ หลาย ๆ คนที่เข้ามาในที่นี้ เมื่อคุณมีธุรกิจสิ่งที่คุณห้ามลืมเด็ดขาดคือ เว็บไซต์ของธุรกิจของคุณ ซึ่งเว็บไซต์สามารถช่วยนำผู้ใช้งาน ผู้สนใจ ผู้ที่กำลังหาข้อมูล บนอินเตอร์เนตเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณ ที่แสดงผลเกี่ยวกับข้อมูลทางธุรกิจ ซึ่งช่องทางออนไลน์ในปัจจุบันถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากอีกช่องทางหนึ่งซึ่งปัจจุบันหากว่าใครต้องการซื้อหาอะไร ก็จะเข้ามาค้นหา ดูข้อมูล บริการหรือสินค้าบนอินเตอร์เนตก่อนซื้อบริการ หรือซื้อสินค้านั้น ๆ กันหมดแล้ว และถ้าคุณมีเว็บไซต์ย่อมมีผู้เข้าใช้งานเข้ามาซื้อหรือดูสินค้าแน่นอน 

การสร้างเว็บไซต์

CMC-UP.COM
Mobile : 093-1983758 ; Line Id : @cmc-up ; E-mail : cmcup.com@gmail.com
เราให้บริการออกแบบจัดทำเว็บไซต์ บริษัท ธุรกิจ องค์กร ทำเว็บขายสินค้าออนไลน์ เว็บไซต์ที่มีระบบจองทัวร์ ระบบจองห้องพัก รับทำเว็บบล็อก นำเสนอข่าวสารต่าง ๆ เว็บไซต์คอร์สเรียนออนไลน์ เว็บขายคอร์สวิดีโอออนไลน์ เว็บ MLM
รับอัพเดต แก้ไขเว็บไซต์ เพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ ให้เว็บไซต์ ให้เว็บไซต์ของคุณดูทันสมัย หรือออกแบบหน้าเว็บไซต์
รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำ SEO รับลงโฆษณาโปรโมตเว็บไซต์ Adwords รวมทั้ง Facebook Fanpage
รับอัพเกรด Website ให้รองรับ Responsive หรือรองรับกับการเปิดบนอุปกรณ์ มือถือ แท็ปเล็ต

โดยขั้นการสร้างเว็บไซต์ ขั้นตอนสำคัญเหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการทำเว็บไซต์

Aเตรียมตัวให้พร้อม:
เตรียมตัวคุณให้พร้อม และเตรียมเนื้อหาให้พร้อม เนื้อหาของเว็บไซต์สำคัญกว่าชื่อโดเมนเสียอีก ถ้าหากคุณคิดชื่อโดเมนได้ แต่ไม่มีเนื้อหา คนเข้ามาก็จะรู้สึกแย่กับเว็บคุณ แล้วก็จะไม่กลับมาหาคุณอีกเลย! ทางที่ดี ควรจะเผื่อเนื้อหาไว้ให้พร้อมซัก 100 หน้าเป็นอย่างน้อย ที่สำคัญๆก็อย่างเช่น About Us หรือ Company Profile, Contact Us, Privacy Policy, Terms of Agreement เป็นต้น และถ้าเป็นไปได้ ต้องเป็นเนื้อหาที่หาที่ไหนไม่ได้ ตรงมาอ่านที่เว็บไซต์ของคุณเท่านั้น จะเยี่ยมมากๆ
Bชื่อโดเมน: 
ต้องเน้นให้ จำง่าย, พิมพ์ง่าย ยิ่งพยางค์น้อย หรือน้อยตัวอักษรได้เท่าไหร่ยิ่งดี ถ้าจะให้ดีมี keyword สำคัญๆของคุณอยู่ในโดเมนด้วยยิ่งดี แต่บางคนก็คิดว่า ชื่อโดเมนที่มี keyword อยู่ด้วยนั้น "Out" ไม่ทันสมัย เชยระเบิดระเบ้อ นั่นก็ขึ้นอยู่กับความชอบเป็นการส่วนตัว อย่าง SEO-Thai นี่จะถือว่ายาวก็ได้ สั้นก็ได้อีก หรือชื่อที่ไม่มีความหมายอย่าง Google ใครจะคิดว่าจะดังเปรี้ยงปร้างขนาดทุกวันนี้ นั่นขึ้นกับหลักง่ายๆที่ว่า ของดีเสียอย่าง ใครๆก็อยากได้ เพราะฉะนั้น เตรียมเนื้อหาของคุณให้ดี เอาเวลาคิดชื่อโดเมนเก๋ไก๋ไปทำเนื้อหาดีกว่าครับ
Cออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ให้ใช้ง่าย และตรงกับกลุ่มเป้าหมาย:
ง่ายไว้ก่อน ดีที่สุด ! ดีทั้งกับ Spiders และดีทั้งผู้เข้าชม, ดีกับ Spiders จะทำให้คนค้นหาเว็บไซต์ของคุณได้ง่าย และทำให้มีคนเข้ามามาก และเมื่อเข้ามาแล้วเว็บไซต์ใช้งานง่าย ทำความเข้าใจง่าย เนื้อหาก็ดี โดเมนจำง่าย ใครจะไม่เข้ามาอีก :) คุณอาจจะถามไปอีกว่า ง่ายน่ะ ง่ายยังไง เว็บของผมไม่เห็นจะใช้งานยากตรงไหนเลย? ผมมีวิธีทดสอบสองวิธีครับ

วิธีแรก ให้ลองนึกไปถึงวันแรกๆที่คุณใช้คอมพิวเตอร์ เล่นอินเทอร์เนต ความรู้สึกในวันนั้น คุณคงจำได้ว่า มันเงอะๆงะๆไปหมด ปุ่มไหนคืออะไร จะไปหน้าอื่นต้องทำอย่างไร รู้สึกว่ามันมีปุ่มอะไรต่างๆเยอะแยะไปหมด เอาง่ายๆ Mouse ยังใช้ไม่คล่องเลย! จริงมั้ยครับ? ลองนึกไปถึงวันนั้น แล้วดูเว็บของคุณอีกทีว่า ถ้าคุณในวันนั้นมาเข้าชมเว็บคุณ จะรู้สึกอย่างไร?

วิธีที่สอง เป็นวิธีทดสอบโดยใช้อาสาสมัคร โดยคุณจะต้องหาคนที่ไม่เคยใช้เว็บของคุณเลย จะเป็นคนที่ใช้อินเทอร์เนตคล่องอยู่แล้ว หรือจะเป็นมือใหม่หัด Serve Net ก็สุดแท้แต่ ขอให้มีเขายินดีมาเป็นตัวทดสอบเป็นใช้ได้ การทดสอบก็ง่ายๆ โดยการที่คุณตั้งโจทย์ให้ผู้ทดสอบทำอะไรซักอย่างเกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณเช่น อาจจะให้ลองเลือกซื้อของ หรือหาบทความที่มีอยู่ในเว็บ และคุณนั่งดูอยู่ข้างหลัง ดูอย่างเดียวนะครับ ห้ามแนะนำใดๆทั้งสิ้น ดูว่าเขาใช้งานได้คล่องเหมือนคุณหรือเปล่า? ถ้าไม่เกิน 20 นาทีก็ถือว่าผ่านครับ :)

อีกอย่างก็คือต้องพยายามจัดเนื้อหาของหน้าแรกให้ตรงกับกลุ่มคำ หรือข้อความในหัวข้อหลักของเว็บ มันจะมีความจำเป็นเมื่อ search engine ส่ง bot มาสำรวจเว็บของคุณมันจะได้รู้สึกว่าเว็บของคุณมีเนื้อหาไปในทำนองเดียวกับ meta-tag หรือ title จริงๆ

ความเร็วอาจจะไม่ใช่ทุกอย่าง การทำให้โหลดเร็วเข้าว่าเพียงอย่างเดียวก็อาจจะทำให้เว็บขาดความน่าสนใจไป มันอยู่ที่ว่าคุณจัดสรรหรือคัดเรื่องเด่นแค่ไหนเข้ามาลงหน้าแรก
Dขนาดของข้อมูลในแต่ละหน้า (File Size):
ยิ่งเล็กยิ่งดี แต่กำลังพอดีจะดีที่สุด :) ถ้าเนื้อหามีน้อยก็ควรใส่รูปภาพประกอบ ตกแต่งให้สวยงาม แต่ถ้าเนื้อหามีมาก ถ้าใส่ไว้ในหน้าเดียวอาจจะทำให้โหลดข้อมูลนานเกินไป ควรจะทำการแบ่งเป็นหน้าๆ ตั้งชื่อแต่ละหน้า ตามหัวข้อของหน้านั้นๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดของไฟล์มากจนเกินไป ควรจะแบ่งให้อ่านแล้วรู้เรื่อง ไม่ใช่แบ่งซอยยิบเกินไป หวังให้โหลดเร็ว อย่างนั้น Search Engine ชอบ แต่คนไม่ชอบ เข้ามาแล้วอาจจากไปลับก็ได้ ควรให้พอดีๆ
Eเนื้อหา:
ทำเนื้อหาตาม Keyword ที่เหมาะกับเว็บไซต์ของคุณ โดยการตั้ง Keyword เป็นตัวตั้ง ยกตัวอย่างเช่น เว็บของคุณขายต้นไม้ส่งในประเทศ คุณอาจจะเลือก "ไม้ประดับ" หรือ "ไม้มงคล" เป็น Keyword แล้วทำเนื้อหาตาม Keyword ที่เลือกไว้ แล้วคอย Update อย่างสม่ำเสมอ รับรองว่า "ไม้มงคล" หรือ "ไม้ประดับ" ของคุณจะออกดอกออกผลให้ได้ชื่นชมแน่ๆ
Fจำนวน Keyword และการจัดวางตำแหน่งในแต่ละหน้า:
แน่นอนว่า ถ้าคุณอยากให้ Search Engine หาคุณพบด้วย Keyword คำไหน แต่ไม่มีคำนั้นๆในเว็บไซต์ของคุณเลย จะเป็นไปได้หรือ? และถ้ามีมากจนล้นเลยยิ่งแล้วใหญ่ (Spam) Search Engine เกลียดนัก ถือว่าดูถูกความสามารถกันอย่างร้ายแรง คุณต้องระวังให้จงหนักเลย ทางที่ดีควรจะมีไม่เกิน 5% ต่อจำนวนคำทั้งหมดในหน้านั้น (ไม่นับ Tag HTML) แต่ถ้าจำเป็นจะต้องมี Keyword คำนั้นๆมากๆ เพราะเหตุการณ์บังคับ ก็ควรจะใช้มุขเดิมคือ แบ่งเป็นหลายๆหน้า หรือหาเนื้อหาอื่นๆมาเพิ่ม ลดทอนจำนวน Keyword นั้นลง
Gการเชื่อมโยงไปเว็บไซต์อื่นๆ:
เชื่อมโยงถึงเว็บไซต์ใหญ่ๆ ด้วย Keyword ในหน้านั้นเป็นการอ้างอิงให้ผู้เข้าชมเชื่อถือ แถมยังอ้างให้ Search Engine รู้ด้วยว่าเราเป็นเว็บที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆได้ง่ายยิ่งขึ้น (Ralate Link) เพราะเว็บไซต์ใหญ่ๆนั้น Search Engine รู้จักดีอยู่แล้ว เมื่อเราอ้างถึงเว็บไซต์นั้นๆ Search Engine จะสร้างความสัมพันธ์กับเว็บไซต์ของคุณ กับ Keyword ที่คุณ link ออกไป เปรียบเหมือนการแนะนำตัวกับ Search Engine เว็บไซต์ของเราอยู่หมวดหมู่ไหนนั่นเอง
Hโครงสร้างของการเชื่อมโยงภายในเว็บไซต์ของคุณ (Cross Links หรือ Link Structure):
cross links ก็คือ links การเชื่อมโยงข้อมูลภายใน website ของเรานั้นเอง ถ้าคุณทำเว็บไซต์เกี่ยวกับอาหาร คุณอาจจะต้องมีการเชื่อมโยงไปยัง หน้า แอปเปิ้ล หรือ ผักผลไม้อื่นๆ หรืออะไรก็ตามที่ชื่อพ้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณ ไม่จำเป็นจะต้องทำทุกหน้า แต่ถ้าคุณขยันและมีเวลาพอละก็ ผมแนะนำให้คุณทำ link ในคำทุกคำที่สามารถ link ได้ แต่ต้องไปหาหมวดหมู่หรือหน้าที่เกี่ยวข้องนะครับ และที่สำคัญมากๆ ทุกหน้าควรมี link ไปหน้าแรกเสมอ ห้ามลืม เด็ดขาด!!!
Iได้เวลาออนไลน์:
ถ้าคุณมีทุนทรัพย์เพียงพอ คุณควรเลือก Hosting ที่มี IP ให้สำหรับคุณคนเดียว ไม่ควรเลือกแบบ Virtual Host แต่ถ้าเบี้ยน้อย หอยน้อย เลือก ็Host ราคาถูกๆ แต่ไม่ค่อยล่ม ก็พอได้อยู่ เมื่อมี Hosting แล้ว เนื้อหาพร้อมแล้ว link sturcture ทำได้นวลเนียนดีแล้ว ก็ออนไลน์ออกสู่โลกกว้างได้เลยครับ และขอให้จำไว้เลยว่า ถ้าไม่พร้อม อย่าเพิ่งออนไลน์เด็ดขาด นอกเสียจากคุณไม่แคร์ และคุณมีวินัยเพียงพอที่จะเพิ่มเนื้อหาได้อย่างต่อเนื่อง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ผมแนะนำให้คุณใจเย็นๆ รอให้พร้อมก่อนดีกว่าอยู่ดี
JSubmit:
ได้เวลาของการโฆษณาแล้วครับ ขั้นตอนนีคือการเอาเว็บของคุณไป submit ตาม search engine ต่างๆ เท่านี้แหละครับ อย่าไปคาดหวังว่าจะได้รับการจัดอันดับในเร็ววันครับ คอยตรวจสอบบ้างสัปดาห์ละครั้งก็พอ
Kตรวจสอบและติดตามผล:
ทำได้โดยการวิเคราะห์ log ครับ ไม่ต้องไปสนใจข้อมูล graphics ที่สวยงามแต่ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไร ทำนอง "สวยแต่รูป จูบไม่หอม" ไม่เอาครับ logs file คือสิ่งที่เราต้องการ อย่าลืมดูว่า logs มีข้อมูล referer หรือเปล่า ถ้าไม่ก็ย้าย hosting ดีกว่าครับ ถ้าคุณอ่าน Logs File ไม่เป็น ผมแนะนำให้คุณจ้างโปรแกรมเมอร์ มาจัดส่วนตรงนี้ให้คุณดีกว่า บอกความต้องการเขาไปว่า อยากให้เขียนโปรแกรมวิเคราะห์ Log File ให้แสดงผลออกมาในแบบคุณอ่านรู้เรื่อง หรือหาๆเอาใน internet นี่แหละครับ ของฟรี ดีด้วย ยังมีอีกเยอะ เพียงแต่คุณจะหามันเจอหรือเปล่าเท่านั้นเอง
Lเอาอกเอาใจ Spider ให้มากๆเข้าไว้:
ให้คุณคอยดูว่า มีแมงมุม (Spiders) มีล่าเหยื่อ (เนื้อหา) ของคุณไปติดหรือยัง? หมายความว่า Search Engine ส่ง Bot หรือ Spider เข้าไปเก็บข้อมูลเว็บไซต์ของคุณไปหรือยัง ตรวจสอบง่ายๆด้วยการใช้คำสั่ง site:www.seo-thai.com โดยเปลี่ยนจาก seo-thai เป็นชื่อโดเมนของคุณเอง เท่านี้ คุณก็จะได้รู้ว่า แมงมุมฮุบเหยื่อยัง :) ถ้ายัง ต้องรีบมาตรวจแล้วว่าผิดกฏของ Search Engine บ้างหรือเปล่า? โครงสร้าง Link ดีหรือไม่อย่างไร มีเว็บอื่นสร้าง link มาหาคุณบ้างหรือเปล่า ถ้าไม่มีเลย คุณก็ต้องหาพันธมิตรให้ได้ ไม่งั้นเว็บของคุณก็จะกลายเป็นเว็บร้างแน่ๆ
Mจัดหมวดหมู่ให้เรียบร้อย เน้นเข้าใจง่าย ใช้ง่ายเป็นหลัก:
พยายามจัดหมวดหมู่ของ keyword ให้เป็นเรื่องเดียวกับ topic ของมันครับ ไม่มีอะไรมาก :)
NLinks จากเว็บประเภทเดียวกัน:
ในกรณีที่เว็บของคุณได้รับการ index บน www.dmoz.org แล้ว ให้คุณพยายามขอแลก link กับเว็บในหมวดหมู่เดียวกัน ถ้าเขาไม่ยอมรับแลกก็ไม่เป็นไร ขอกับเว็บอื่นก็ได้ ใครก็ได้ที่ยอมรับการแลกกับเรา เน้นให้พยายามแลก link กะเว็บที่ค่อนข้างจะมีการ update อย่างต่อเนื่อง
Oเนื้อหาๆๆ:
ควรจะมีหน้าที่มีเรื่องที่เด่นๆ ในแต่ละวัน โดยถ้าเป็นบท ความยาวๆ หน่อยจะดีมาก อย่าพยายามลงในเรื่องที่มีคนสนใจน้อย หรือเรื่องที่มันกว้างเกินไป อันนี้คุณต้องกลับไปค้นหนังสือวิชาภาษาไทยเรื่องการเขียนเรียงความมาอ่านสักหน่อยก็จะดีครับ เขียนให้อ่านง่ายๆไว้ก่อน สำนวนภาษาเป็นเรื่องเฉพาะตัว แต่ก็ฝึกกันได้ ขอให้เขียนทุกวันเป็นใช้ได้ เมื่อครบปีแล้ว คุณลองกลับมาอ่านบทความแรกๆที่คุณเขียน คุณจะได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างมากทีเดียว
Pลูกเล่น ต่างๆ:
พยายามหลีกเลี่ยงลูกเล่นแปลกๆ ที่อาจจะสร้างความ สนุกให้ท่าน แต่นั่นอาจจะสร้างความรำคาญให้แก่คนที่เข้ามาชมก็เป็นได้ พยายามให้มันดูกลางๆ ไม่จืดหรือหวือหวาจนน่ารำคาญ
QLink จากเว็บพันธมิตร:
ข้อนี้จะต่างจากข้อ N ตรงที่อาจจะเป็น Link ที่ไม่ได้มาจากเว็บในประเภทเดียวกัน แล้วจำเป็นที่จะต้อง Link กลับไปหาเว็บนั้นๆด้วย เรียกง่ายๆว่า "การขอแลก Link" นั่นเอง อันนี้ผมแนะนำว่าคุณจำเป็นต้องเลือกสักหน่อย อย่า Link ไปสะเปะสะปะ เพราะถ้า link ปลายทางเป็น เว็บโป๊ ละก็ ภาพลักษณ์ของเว็บของคุณก็จะถูกมองเป็นเว็บแนวๆนั้นทันที เสียทั้งหน้าตา และ Search Engine ก็จะงงกับเว็บคุณอีกด้วย
Rบริการเสริม:
เพิ่มบริการเสริมที่จำเป็นอย่างเช่น "ส่งเว็บนี้ให้เพื่อน" กระดานสนทนา หรือจดหมายข่าว เป็นต้น เท่านี้ก็แทบจะเพียงพอแล้ว อย่าเพิ่มลูกเล่นอื่นๆที่ไม่จำเป็น เพราะนั่นอาจจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการจ้างทำเว็บของคุณสูงจนเกินจำเป็น แถมยังเปล่าประโยชน์อีกด้วย
Sอย่ายัดเยียดโฆษณา!:
ถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์ขายสินค้า ขอให้ระมัดระวังเรื่องการโฆษณาสักหน่อย อย่ายัดเยียดจนดูน่าเกลียด ต้องทำให้ดูแนบเนียนประมาณว่า ผู้เข้าชมได้รับชมโฆษณาไปโดยไม่รู้ตัว อย่างนั้นได้ยิ่งดี โปรดระลึกไว้เสมอว่า ผู้ชมเข้าเว็บของคุณเพราะต้องการเนื้อหา หรือ สินค้าที่ต้องการ ไม่ใช่ "โฆษณา"
Tเพิ่มเนื้อหา หรือ สินค้า บ่อยๆและสม่ำเสมอ:
ควรเพิ่มเนื้อหา หรือบทความอย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำเว็บไซต์เลยทีเดียว
Uเรียนรู้เรื่อง Logs:
หลังจากเปิดดำเนินการได้ 30-60 วัน ก็ได้เวลาที่จะต้อง ทำตัวเป็นนักวิเคราะห์ข้อมูลกันแล้วครับ ข้อมูลที่จะนำมาวิเคราะห์ก็ควรจะนำมาจาก Log Files นั่นเอง คุณควรจะคอยดูว่าผู้เข้าชมใช้ Keyword คำไหนเข้ามาสู่เว็บคุณ อาจจะเป็นคำที่คุณไม่ได้เตรียมไว้ (Optimize) ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณควรจะ Optimize เพิ่ม ยกตัวอย่างเช่น ผู้เข้าชม มักจะใช้คำว่า "orange citrus fruit" แต่ว่าคุณเตรียมเนื้อหาไว้สำหรับคำว่า "oranges" ฉะนั้นคุณควรจะเตรียมเนื้อหาสำหรับคำว่า "citrus" และ "fruit" แล้วก็ทำ Cross Links ถึงกัน
Vการกะระยะเวลา:
เมื่อทำให้เว็บไซต์ได้รับความนิยมแล้ว ไม่ได้ทำให้คุณหมดหน้าที่ไป เพราะคุณยังคงต้องเฝ้าประคบประหงม เว็บของคุณให้ติดอันดับต่อไปอีก เหมือนขี่หลังเสือไม่อาจจะลงได้ การะวิเคราะความเป็นไปก็ยังค้องต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง อย่าลืมนะครับว่า กว่าที่ keyword ของคุณจะไปประกฎใน search engine อาจจะใช้เวลานานถึง 3 เดือน เช่นถ้าคุณต้องการให้ผลิตภัณฑ์ของ คุณปรากฏอยู่ใน search engine ในตอนต้นปี คุณอาจจะต้องทำ web ให้เสร็จก่อนหน้านั้นถึง 3 เดือนเป็นอย่างน้อย
Wเพื่อนและพันธมิตร:
ในโลกความเป็นจริงคุณต้องมีเพื่อนหรือทำความรู้จักผู้คน ในโลกอินเทอร์เน็ตก็เช่นกัน คุณควรจะทำความรู้จักผู้คน โดยการเข้าที่กระดานสนทนา หรือ กระดานข่าวในเรื่องที่คุณสนใจ แต่ว่ากระดานสนทนาเกี่ยวกับ SEO ในบ้านเรายังไม่เห็นมี คุณต้องหากระดานสนทนาของประเทศ เช่น http://www.searchengineworld.com เป็น และเมื่อคุณเข้าไปแล้ว ก็ใช่ว่าควรจะอ่านอย่างเดียว คุณควรจะสมัครสมาชิก รับจดหมายข่าว แสดงความเห็นหรือสอบถามบ้าง อย่าลืมว่ากระดานข่าวไม่ใช่แค่เข้าไปแล้ว อ่านๆ อย่างเดียว แต่กระดานข่าวตอบคำถามคุณได้
Xอย่าลืมจดบันทึกไอเดียเด็ดของคุณ:
หากคุณเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆทุกวัน นั่นอาจจะทำให้คุณต้องใช้สมองจนเครียดพอสมควรทีเดียว เพราะฉะนั้นบางครั้งคุณอาจจะคลายเครียดโดยการเปลี่ยนกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ เช่น ออกไปเดินเล่น อาบน้ำ แต่เมื่อหลังจากการคลายเครียดแล้ว บางครั้งรายระเอียดที่คุณพยายามคิดมาตั้งนาน ก็พลันหายไปพร้อมกับความเครียด!! ผมแนะนำว่า คุณควรจะจดบันทึกไอเดียของคุณเอาไว้ทุกครั้งที่นึกออก หรือก่อนจะออกไปพัก หรือถ้าคุณมีเครื่องบันทึกเสียงก็ยิ่งดี มันจะช่วยคุณได้ในกรณีที่ไอเดียของคุณหลั่งไหลออกมาจนคุณจดตามไม่ทัน คุณอาจจะพูดๆๆ ใส่เครื่องบันทึกเสียง แล้วค่อยกรอกลับมาฟังใหม่ รับรองไอเดียเด็ดของคุณจะไม่สูญหายไป
Yตรวจสอบผลการ Submission เมื่อผ่านไปได้ 6 เดือน:
กลับไปดูว่าผลการ Submission กับ Search Engine ต่างๆ หรือ Directory ต่างๆ อย่างเช่น ODP นั้น Index เว็บไซต์ของคุณให้หรือยัง? ถ้ายัง คุณต้อง ReSubmit ไปอีกครั้ง คราวนี้จะมีโอกาสเพิ่มขึ้น เพราะคุณมีเนื้อหาหรือสินค้ามากกว่าเดิม 180 หน้าแล้ว :)
Zพยายามสร้างเนื้อหาที่ Search Engine ชอบ ทุกๆวัน:
เนื้อหาที่ Search Engine ชอบเป็นอย่างไร? อธิบายง่ายๆก็คือเนื้อหาที่มีการคัดกรองมาอย่างดี มีบทนำ มีเนื้อหา มีบทสรุป เน้นในสิ่งที่ควรเน้น มีจำนวนคำต่อหน้าที่พอเหมาะ มีการอ้างอิงถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ได้รับความนิยม (มีจำนวน Link มาหามาก) ไม่ทำผิดกฏของ Search Engine ไม่ใช้ ลูกเล่นหรือ HTML ที่ซับซ้อนจนเกินกว่าที่ Search Engine จะเข้าใจได้ (Search Engine ไม่ฉลาดเท่า Browser)
จะว่ายากก็ไม่น่ายากเท่าไหร่นักที่จะทำให้ได้ครบทุกข้อ แต่ถ้าคุณคิดเนื้อหาไป แล้วก็ Optimize ไปด้วย ผมรับรองว่ายากแน่ๆ คุณควรจะคิดเนื้อหาให้ครบถ้วนก่อน จากนั้นให้ทำเว็บไซต์ด้วย HTML Code ง่ายๆก่อน แล้วจึง Optimize เป็นอันดับสุดท้าย ถ้าคุณทำได้ครบ สิ้นปี คุณจะมีจำนวนหน้าที่คุณภาพคับแก้ว เกือบ 400 หน้าทีเดียว!
ที่มา 
http://www.searchengineworld.com/misc/guide.htm 

Tuesday, December 6, 2016

ธุรกิจออนไลน์ รายได้ดี

ธุรกิจออนไลน์ แค่คลิ้กก็เจอธุรกิจคุณ เพิ่มรายได้ ขยายธุรกิจ เพิ่มช่องทางการเข้าถึงข้อมูล บริการ หรือสินค้าของคุณ และพร้อมสร้างรายได้แบบยั่งยืน

ธุรกิจออนไลน์ แค่คลิ้กก็เจอธุรกิจคุณ การพัฒนาของเทคโนโลยีโลกออนไลน์นั้นทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ บนอินเตอร์เนตได้ง่ายจากทุก ๆ ที่จากทุก ๆ มุมของโลกด้วยอินเตอร์เนต หากว่าคุณกำลังทำธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ แต่ต้องการเพิ่มยอดขาย เพิ่มรายได้ สิ่งหนึ่งที่ทุกธุรกิจต้องมีไว้เป็นช่องทางขายหรือให้บริการลูกค้าของคุณบนช่องทางออนไลน์ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ เว็บไซต์ , Fanpage หรือ Social Network ต่าง ๆ


ความแตกต่างของเว็บไซต์ กับ Social Network อันได้แก่ Facebook fanpage, Twitter, Instagram เป็นต้น
ข้อดีของเว็บไซต์ นั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจซึ่งทำให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือมากกว่า Social Network อย่างมากด้วยการที่เว็บไซต์สามารถตั้งชื่อโดเมนเนมให้ตรงกับธุรกิจของคุณได้ สามารถมีระบบจัดการ ระบบขายสินค้า หรือระบบตอบสนองที่มุ่งตรงจุดและตรงประเด็นไปยังผู้ที่เข้ามาใช้งานโดยตรงได้เลย และสามารถทำให้เป็นระบบสำเร็จรูป ที่ช่วยแบ่งเบาภาระของเจ้าของธุรกิจต่าง ๆ อย่างมากมายมหาศาล เราสามารถที่จะทำให้เว็บไซต์เป็นรูปแบบเว็บที่ตอบสนองแบบไหนก็ได้ แม้แต่ Social Network ต่าง ๆ ก็คือเว็บไซต์ประเภทหนึ่งเหมือนกัน โดยหลัก ๆ ประเภทของเว็บไซต์ก็จะมีประเภทต่าง ๆ ดังนี้
  • เว็บท่า (Portal site)เว็บท่านั้นอาจเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่าเว็บวาไรตี้ (variety web) ซึ่งหมายถึงเว็บที่ให้บริการต่างๆ ไว้มากมาย มักประกอบไปด้วยบริการเครื่องมือค้นหา ที่รวบรวมลิงค์ของเว็บไซต์ที่น่าสนใจไว้มากมายให้ได้ค้นหา รวมถึงบริการที่เกี่ยวกับเรื่องราวที่มีสาระและบันเทิงหลากหลายประเภท เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ดูดวง ท่องเที่ยว IT เกม สุขภาพ หรืออื่นๆ นอกจากนั้นแล้วเว็บท่ายังมีลักษณะในการเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของผู้คนในสังคมในเรื่องเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ซึ่งเรียกว่าเว็บชุมชน (community web) คือเป็นเว็บที่ให้บริการพื้นที่แก่กลุ่มคนผู้ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันได้เข้ามาแลกเปลี่ยนและแสดงความคิดเห็นกัน
  • เว็บข่าว (News site)เว็บข่าวมักเป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นโดยองค์กรข่าวหรือสถาบันสื่อสารมวลชนต่างๆ ที่มีสื่อมวลชนประเภทต่างๆ ของตนอยู่เป็นหลัก เช่น สถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร หรือแม้กระทั่งกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ แต่องค์กรเหล่านี้ได้นำเว็บไซต์มาใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อนำเสนอข่าวและสาระที่เป็นการสรุปใจความสำคัญหรือรวบรวมเนื้อหาจากข่าวในรอบเดือนหรือรอบปี ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลและติดตามข่าวสารได้ทุกที่ทุกเวลา แม้ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม
  • เว็บข้อมูล (Information site)เว็บข้อมูลนั้นเป็นเว็บที่ให้บริการเกี่ยวกับการสืบค้นข้อมูล ข่าวสาร หรือข้อเท็จจริงต่างๆ ตนเองขึ้นมา เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนหรือกลุ่มบุคคลที่สนใจ ได้เข้ามาศึกษาค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับองค์กรของตนได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสในการประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจอันดีให้เกิดแก่ประชาชนในสังคมอีกด้วย
  • เว็บธุรกิจหรือการตลาด (Business/ Marketing site)เว็บธุรกิจหรือการตลาด เป็นเว็บไซต์ที่มักสร้างขึ้นโดยองค์กรธุรกิจต่างๆ มีจุดมุ่งหมายหลักในการประชาสัมพันธ์องค์กรและเพิ่มผลกำไรทางการค้า โดยเนื้อหาส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดมักจะเป็นการนำเสนอที่มีความน่าสนใจและตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ทั้งนี้เพื่อผลกำไรทางธุรกิจนั่นเอง
  • เว็บการศึกษา (Education site)เว็บการศึกษามักเป็นเว็บที่สร้างขึ้นโดยสถาบันการศึกษาต่างๆ หรือองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีนโยบายในการเผยแพร่ความรู้ และให้โอกาสในการค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อการศึกษาแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา รวมถึงประชาชนทั่วไป เว็บการศึกษาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนรู้ทั้งแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เว็บที่เกี่ยวกับการศึกษาโดยตรงนั้น ได้แก่เว็บของสถาบันการศึกษา ห้องสมุด และเว็บที่ให้บริการการเรียนรู้แบบออนไลน์ที่เรียกว่า      อี-เลิร์นนิ่ง (e-learning) นอกจากนี้แล้วยังรวมถึงเว็บที่สอนหรือให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เช่น การทำเว็บ การทำอาหาร การถ่ายภาพ การเขียนโปรแกรม ฯลฯ
  • เว็บบันเทิง (Entertainment site)เว็บบันเทิงนั้นมุ่งเสนอและให้บริการต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความบันเทิง โดยทั่วไปอาจนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการบันเทิงทั่วไป เช่น ดนตรี ภาพยนตร์ ดารา กีฬา ความรัก บทกลอน การ์ตูน เรื่องขำขัน รวมถึงการให้บริการดาวน์โหลดโลโก้และริงโทนสำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่อีกด้วย เว็บประเภทนี้อาจมีรูปแบบที่เป็นอินเตอร์แอคทีฟที่ตื่นตาตื่นใจ หรือใช้เทคโนโลยีมัลติมิเดียได้มากกว่าเว็บประเภทอื่น 
  • เว็บองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร (None-profit organization site)เว็บประเภทนี้มักจะเป็นเว็บที่สร้างขึ้นโดยกลุ่มบุคคลหรือองค์กรต่างๆ ที่มีนโยบายในการสร้างสรรค์ที่ช่วยเหลือสังคมโดยที่ไม่หวังผลกำไรหรือค่าตอบแทน ซึ่งกลุ่มบุคคลหรือองค์กรเหล่านี้ได้แก่ สมาคม ชมรม มูลนิธิ และโครงการต่างๆ โดยอาจมีจุดประสงค์เฉพาะที่แตกต่างกัน เช่น เพื่อทำความดี สร้างสรรค์สังคม พิทักษ์สิ่งแวดล้อม ปกป้องสิทธิมนุษยชน รณรงค์ไม่ให้สูบบุหรี่ หรืออาจรวมตัวกันเพื่อดูแลผลประโยชน์ของสมาชิกในกลุ่ม
  • เว็บส่วนตัว (personal site)เว็บส่วนตัวอาจเป็นเว็บของคนๆ เดียว เพื่อนฝูง หรือครอบครัวก็ได้ โดยอาจจัดทำขึ้นด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน เช่น แนะนำกลุ่มเพื่อน โชว์รูปภาพ แสดงความคิดเห็น เขียนไดอารี่ประจำวัน นำเสนอผลงาน ถ่ายทอดประสบการณ์เกี่ยวกับสิ่งที่เชี่ยวชาญหรือสนใจ โดยทั้งหมดนี้อาจทำเป็นเว็บไซต์หรือเป็นเพียงเว็บเพจหน้าเดียวก็ได้
สำหรับปัจจุบันราคาการทำเว็บไซต์นั้นราคาถูกลงไปมากและมีระบบต่าง ๆ รองรับไว้อย่างมากมายทำให้ไม่ต้องใช้เวลาในการพัฒนายาวนานเกินไป
ข้อเสียของเว็บไซต์ ถึงแม้ว่าคุณจะมีเว็บไซต์หรือระบบสำเร็จรูปที่สมบูรณ์แบบยังไงก็ตาม เพื่อความรวดเร็วและการเติบโตของการทำธุรกิจเว็บไซต์นั้นยังต้องการโฆษณาหรือการทำ SEO เพื่อช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณขึ้นไปทำอันดับบน Search Engine ต่าง ๆ เช่น การทำอันดับบนหน้าเว็บ Google, Bing เป็นต้น
ข้อดีของ Social Network คือ คุณสามารถเป็ยเจ้าของบัญชีได้แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือ ฟรีนั่นเอง สามารถชี้นำให้คนเข้ามาดูได้รวดเร็วเนื่องจากในระบบ Social Network เราสามารถชี้นำหรือส่งข้อมูลให้บุคคลที่เป็นเพื่อนของเราได้เลย
ข้อเสีย Social Network คือ ไม่มีความน่าเชื่อถือเท่าการจัดทำเว็บไซต์ ต้องเพิ่มผู้คนเข้ามาเป็นเพื่อนกับคุณให้มากเท่าที่สุด ปัจจุบัน Social Network บางชนิดมีการป้องกันไม่ให้บัญชีของคุณขึ้นมาทำอันดับบน Search Engine ได้  มีการแข่งขันกันมากเนื่องจากทุกคนสามารถเป็นเจ้าของบัญชีได้ฟรีทำให้มีการทำหน้าเพจกันเยอะปล่อยทิ้งไว้บ้าง หรือแม้กระทั่งเพจของมิจฉาชีพต่าง ๆ มีกฏข้อบังคับต่าง ๆ มากมาย ต้องจ่ายเงินเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ เพื่อทำการโฆษณา หรือเพื่อเปิดให้ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลของเราได้

สำหรับการเพิ่มการทำธุรกิจออนไลน์เราควรใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีทั้งสองนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดจาก ซึ่งทั้งคู่นี้ย่อมเป็นตัวนำพาผู้ใช้งาน ผู้สนใจ ลูกค้า เข้ามาใช้บริการ ซื้อสินค้าจากธุรกิจของคุณได้อย่างแน่นอน

CMC-UP.COM
Mobile : 093-1983758 ; Line Id : @cmc-up ; E-mail : cmcup.com@gmail.com
เราให้บริการออกแบบจัดทำเว็บไซต์ บริษัท ธุรกิจ องค์กร ทำเว็บขายสินค้าออนไลน์ เว็บไซต์ที่มีระบบจองทัวร์ ระบบจองห้องพัก รับทำเว็บบล็อก นำเสนอข่าวสารต่าง ๆ เว็บไซต์คอร์สเรียนออนไลน์ เว็บขายคอร์สวิดีโอออนไลน์ เว็บ MLM

Friday, December 2, 2016

สร้างเว็บ เชียงใหม่

สร้างเว็บ เชียงใหม่ ทุกวันนี้เว็บไซต์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเราผู้คนเต็มรูปแบบไปแล้ว และเว็บไซต์ปัจจุบันก็สามารถตอบสนองความต้องการต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี สามารถนำทุกธุรกิจบนโลกนี้เผยแพร่สู่โลกออนไลน์ได้

สร้างเว็บ เชียงใหม่ ไม่ใช่ว่าคุณที่กำลังตามหาลูกค้า ลูกค้าก็ตามหาคุณอยู่เหมือนกัน วันนี้ธุรกิจของคุณสามารถค้นหาผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ได้แล้วหรือยัง จากปัจจุบันอินเตอร์เนตได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากมายมหาศาล ไม่ว่าคุณจะทำอะไรหรือผู้คนในปัจจุบันต่างก็จะเข้ามาหาข้อมูล เกี่ยวกับสินค้า บริการ ธุรกิจ หาข้อมูลต่าง ๆ ที่มีอยู่มหาศาลในเครือข่ายโลกออนไลน์ และเครือข่ายในโลกออนไลน์นี้ก็พร้อมที่จะตอบปัญหาต่าง ๆ หรือให้ข้อมูลต่าง ๆ แก่ผู้ที่เข้ามาค้นหา โดยเมื่อเข้ามาค้นหาแล้วสิ่งที่แสดงผลหลังจากที่กรอกคำที่เกี่ยวข้องในเรื่องที่ต้องการค้นหาก็จะแสดงออกมาเป็นลิ้งค์ต่าง ๆ

โดย Google ถือได้ว่าเป็นผู้พัฒนาระบบการค้นหาหรือ Search Engine ขึ้นมาโดยผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลกที่มีคอมพิวเตอร์และเชื่อมต่อกับอินเตอร์เนต ก็สามารถท่องโลกออนไลน์และสืบค้นข้อมูลได้อย่างง่าย ๆ สบาย ๆ แล้วจะเป็นผลดีขนาดไหน ถ้าหากว่าคุณมีเว็บไซต์สำหรับนำเสนอธุรกิจ สินค้า บริการ หรือข้อมูลต่าง ๆ ที่คุณต้องการเผยแพร่ให้ข่าวสาร ให้รายละเอียด และชี้แจงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้ และผู้ใช้งานอินเตอร์เนตทุกคนสามารถค้นหาเว็บไซต์ของคุณเจอ บนโลกออนไลน์



นั่นคือจะมีการนำข้อมูลบนเว็บไซต์ของคุณไปแสดงให้ผู้ที่ต้องการข้อมูล ผู้สนใจได้เข้ามาดูรายละเอียดบนเว็บไซต์ ยิ่งคุณให้ข้อมูลถูกต้องมากแค่ไหน ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ของคุณก็จะสูงตาม ทำให้มีผู้ที่เข้ามาใช้งานอย่างมากมาย และขายสินค้า หรือบริการได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น ๆ



ซึ่งปัจจุบันการทำเว็บไซต์นั้นถือได้ว่ามีความสะดวกพอสมควรและใช้เงินทุนไม่สูงมากเหมือนในอดีต และมาพร้อมกับลูกเล่น การแสดงผลที่แปลกใหม่ขึ้นไปเรื่อย ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการทำเว็บไซต์นั้นสิ่งหนึ่งที่ผู้รับทำหรือผู้จัดทำเว็บไซต์ จะนำข้อมูลของคุณในขั้นแรกมาวิเคราะห์หาความน่าจะเป็น ความเป็นได้ ลักศณะรูปลักษณ์การออกแบบที่เหมาะสมกับธุรกิจ หรือความต้องการของคุณ โดยหลัก ๆ จะมีดังนี้
  • สิ่งที่คุณต้องการนำเสนอบนเว็บไซต์ นั่นคือ คุณต้องการนำเสนออะไร
  • ที่มาของข้อมูล บริการ สินค้า นั้นเริ่มมายังไง มีบริการยังไง
  • คุณสมบัติของข้อมูล บริการ สินค้า นี้เป็นอย่างไร
  • ข้อมูล สินค้า บริการของคุณ มีข้อมูลประกอบพวกรูปภาพหรือไม่
  • เว็บไซต์ที่คุณต้องการให้ออกแบบมา ต้องการสีอะไร
  • คุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณสามารถตอบสนองหรือช่วยงานในลักษณะไหนบ้างเช่น ระบบขายสินค้า ระบบจองทัวร์ จองโรงแรม ระบบส่งข้อความ ระบบการเรียนออนไลน์ เป็นต้น
และทุกอย่างก็จะมีขั้นตอนการดำเนินงานที่เป็นแบบแผนจนเว็บไซต์ของคุณเสร็จสมบูรณ์ตามระยะเวลาและขอบเขตที่ตกลงกันไว้

Tuesday, November 29, 2016

ออกแบบ "เว็บไซต์" ให้ดึงดูดผู้ใช้งาน

เว็บไซต์ นั้นมีการพัฒนาอยุ่ตลอดเวลาโดยการนำเทคนิค และเทคโนโลยี ต่าง ๆ เข้ามาพัฒนาการแสดงผล รูปแบบ การใช้งาน ภาพลักษณ์ การออกแบบและดีไซน์

เว็บไซต์ ปี 2017 นี้สำหรับการออกแบบต่าง ๆ เพื่อให้ผู้คนได้เข้ามาใช้งานเว็บไซต์ของคุณ แนวโน้มการออกแบบปี 2017 จะเน้นลักษณะการออกแบบบนอุปกรณ์ มือถือและ แท็ปเล็ต ซึ่งแนวโน้มปัจจุบันถือว่าการใช้งานจากอุปกรณ์ถือว่าเป็นสิ่งที่กำลังเติบโตอย่างมาก จากความสะดวกสบายต่าง ๆ และการพัฒนาของเทคโนโลยี การเข้าถึงของผู้ใช้งานจะเน้นการตอบสนองแก้ผู้ใช้งานให้เรียบง่ายและผลักดันให้ผู้ใช้งานมีประสบการณ์การใช้งานที่ดีกับการเปิดเว็บไซต์บนอุปกรณ์ที่พวกเขากำลังใช้งาน

นี่คือรูปแบบแนวทางการ ออกแบบเว็บไซต์ และดีไซน์ ที่จะเพิ่มยอดผู้ใช้งานและการตอบสนองที่ดีแก้ผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นแนวทางการออกแบบของ UX ( Userx Experience) ซึ่งเจ้า UX ก็คือ ประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้พึงพอใจต่อการเข้ามาใช้งาน ซึ่งแนวทางการออกแบบนี้มีขึ้นเพื่อให้การใช้งานนั้นมีการตอบสนองที่ดีต่อผู้ใช้เมื่อเข้ามาใช้งานเว็บไซต์ และเป็นที่ดึงดูดให้ผู้ใช้งานกลับมาใช้งานอีกครั้ง

หากการออกแบบนั้นเน้นการออกแบบ UI มากเกินไป และเมื่อผู้ใช้งานเข้ามาใช้งานเว็บไซต์ บางครั้ง UI ที่ออกแบบมาอาจจะทำให้ผู้งานเกิดความคิดที่ว่ามันยุ่งยาก ซับซ้อนเกินไปทำให้ผู้ใช้งานเลือกที่จะปิดเว็บไซต์ของคุณได้ ซึ่งการออกแบบโดยการใช้ UX ก็ถือว่ามีความสำคัญมากที่ผู้ออกแบบเว็บไซต์ต้องคำนึงถึง เพื่อให้เกิดการดึงดูดผู้ใช้งานให้เข้ามาใช้งานเว็บไซต์อย่างต่อเนื่องและมีการตอบสนองต่อผู้ใช้งานและเรียบง่ายไม่ซับซ้อน

  Microinteractions

เว็บไซต์ แนวทางการออกแบบ   จากปุุ่มกดที่เคยเห็นอยู่ทั่วไป ได้มีการนำไอเดีย มาปรับเปลี่ยนเรื่องปุ่มกด ให้กลายเป็นรูปภาพหรือองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ดึงดูดให้ผู้ใช้งานได้เข้ามากด เช่น สวิตท์ไฟฟ้า ก็อกน้ำ เป็นต้น ซึ่งไอเดียนำมาซึ่งการความดึงดูดใจต่อผู้ใช้งาน มีประสิทธิภาพและเรียบง่าย อาจจะเป็นภาพที่สร้างแรงบัลดาลใจก็ได้ผลอย่างดียิ่ง สำหรับ Microinteractions นี้เมื่อทำถูกต้องและเป็นที่สนใจ ก็จะมีการตอบสนองการใข้งานให้เห็นทันที เมื่อทำผิดก็ทำให้เกิดความยุ่งยากในการทำงานไม่คาดคิดได้เช่นกัน ในฐานะที่เป็นนักออกแบบและได้มีการพัฒนาปรับปรุงแนวทางการออกแบบ UX บนเว็บไซต์ ได้มีการนำ microinteractions มาใช้งานอย่างกว้างขวางมากขึ้นในปัจจุบันเพื่อช่วยลดความซับซ้อนและง่ายต่อการใช้งาน 

  เว็บไซต์ แนวทางการออกแบบ
 
แต่จะทำอย่างไรเมื่อคุณนำ microinteractions มาใช้บนเว็บไซต์ของคุณให้เกิดความเรียบง่าย ดึงดูดการใช้งาน และตอบสนองต่อการใช้งานของผู้ใช้งานให้ได้มากที่สุด Credit : https://webflow.com/blog/17-web-design-trends-for-2016